นายสมชายตั้งรหัสบัตรเอทีเอ็มเป็น 2520 แต่ด้วยความกลัวลืม เขาจึงเขียนตัวเลขสี่ตัวไว้บนบัตรว่า 5500 สมมติว่าเค้าเปลี่ยนรหัสบัตรเอทีเอ็มอีกครั้งแล้วเขียนเลขสี่ตัวบนบัตรว่า 8886 อยากทราบว่ารหัสที่แท้จริงสี่ตัวคืออะไร????
ในช่วงสัปดาห์นี้ หลายๆคนคงเคยได้รับคำถามนี้จากเพื่อนๆมาบ้างใช่ไหมครับ
มันเริ่มมาจากไหนเนี่ย อยากรู้จริงๆ
ผมได้ทิ้งทวนคำถามข้อนี้ไว้ในบทความเรื่อง “อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวานจัง วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์” กับ “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ “คำตอบ” กันแล้ว
“คำตอบ” ที่มักเฉลยกันก็คือ
3816
นั่นเอง (ใช่ไหมครับ?? ถ้าผมผิด บอกผมด้วยนะครับ)
เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน ผมขออธิบายเล็กน้อยดังนี้
จากภาพจะเห็นได้ว่า เคล็ดลับอยู่ที่การตั้งเลขใบ้รหัสเอทีเอ็ม เป็น
จำนวน ตัวเลข จำนวน ตัวเลข
นั่นเอง จึงเป็นการตั้งรหัสที่เห็นแล้วนึกออกได้ทันทีโดยไม่ต้องคำนวณใดๆทั้งสิ้น คนที่ไม่ถนัดด้านคำนวณก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ นับเป็นการ “คิดวิธี” ตั้งรหัสที่ไม่เลวทีเดียว คิดไปแล้ววิธีการนี้คล้ายกับวิธีการไขปริศนาใน เวทีทอง นั่นเอง
แต่…..
โจทย์ให้มาแค่ความสัมพันธ์ของเลขชุดเดียว นั่นคือ 5500 และ 2520 จริงๆแล้วเลขชุดนี้มีวิธีการหาความสัมพันธ์ได้อีกหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น
กรณีนี้เราใช้ตรรกะกันคนแบบเลย ตรรกะที่นำมาใช้คือ
- ตัวเลขหลักที่สองเหมือนเดิม จากตัวอย่างคือ 5500 หลักลำดับที่สองของรหัสจริงก็คือเลขเดียวกันกับรหัสใบ้ ซึ่งก็คือ 5 นั่นเอง ( 5 5 0 0)
- ตัวเลขหลักที่สี่เหมือนเดิม จากตัวอย่างคือ 5500 หลักลำดับที่สี่ของรหัสจริงก็คือเลขเดียวกันกับรหัสใบ้ ซึ่งก็คือ 0 นั่นเอง ( 5 5 0 0)
- ตัวเลขรหัสจริงหลักแรกเกิดจาก นำตัวเลขรหัสใบ้หลักแรกบวกด้วยหนึ่ง แล้วหารด้วยสาม (5+1)/3 = 2 เลข 2 จึงเป็นตัวเลขรหัสจริงหลักแรก
- ตัวเลขรหัสจริงหลักที่สามเกิดจาก นำตัวเลขรหัสจริงหลักแรกมาบวกกับตัวเลขรหัสใบ้หลักที่สาม ซึ่งก็คือ 0+2 = 2 นั่นเอง
หากนำหลักการเดียวกันนี้ไปใช้กับตัวเลขรหัสใบ้ 8886 ก็จะสามารถไขรหัสได้ 3816 ได้เช่นกัน
แล้ว “เกมทายใจ” มาเกี่ยวอะไรด้วย???
เกี่ยวสิครับ เกี่ยวมากด้วย ถ้าเราไม่นำหลักเกมทายใจมาใช้เราอาจคิดคำตอบผิดไป
ด้วยตรรกะที่โจทย์ให้มามีเพียงตรรกะเดียว คำตอบที่เป็นไปได้ของรหัสใบ้ 8886 จึงมีมากมาย
หากใครหาคำตอบได้ 5806 แล้วโจทย์ไม่ได้บอกว่าเป็นรหัสเอทีเอ็ม แต่บอกแค่ว่าจงนำความสัมพันธ์ของตัวเลขชุดแรก (5500 กับ 2520) มาไขรหัส 8886 ผมคิดว่า 5806 ก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิดแต่อย่างใดนะครับ
แต่โจทย์ข้อนี้คล้ายกับบอกเงื่อนไขที่สองให้เราโดยที่เราไม่รู้ตัว นั่นคือ
ตัวเลขชุดนี้เป็นตัวเลขเตือนความจำของรหัสเอทีเอ็ม
ดังนั้นตรรกะที่ใช้ควรจะ นึกออกได้ไม่ยากสำหรับเรา แต่นึกออกยากสำหรับคนอื่น ใ
นมุมมองของผม เราต้องหาตัวเลขที่สอดคล้องกับตรรกะหรือเงื่อนไขนี้ด้วย ดังนั้นวิธีการคิดวิธีที่สองอาจเป็นวิธีที่ยุ่งยากเล็กน้อยสำหรับการนำไปใช้งานจริง และมีโอกาสเป็นคำตอบที่ถูกต้องน้อยมาก
แล้วถ้าเราเป็นคนยากๆ ชอบคิดอะไรซับซ้อนล่ะ???
ถ้าโจทย์ข้อนี้ใส่รายละเอียดว่า “สมชายเป็นคนแปลกๆ เขามักทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่นอยู่เสมอ” วิธีที่สองอาจเป็นวิธีการที่ถูกต้องก็เป็นได้
ถ้าตัวเลขรหัสใบ้เปลี่ยนไป เช่น 2111 คำตอบที่ได้จากการใช้ตรรกะวิธีนี้ (1121) คงไม่เหมือนกับคำตอบที่ได้จากตรรกะวิธีแรกแล้ว (1231)
แง่คิดที่ได้จากโจทย์ข้อนี้ก็จะคล้ายกับ “อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวานจัง วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์” กับ “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ตามที่ได้เคยคุยกันไปก่อนหน้านี้ครับ
หวังว่าตอนนี้คงไม่มีใครนำตรรกะวิธีแรกไปใช้ตั้งรหัสใบ้บนบัตรเอทีเอ็มของตัวเองแล้วนะครับ ไม่งั้นบัตรหายทีมีเครียดกันทีเดียวเชียว ^_^”
ขอให้มีความสุขในวันสุดสัปดาห์ครับ
.
หากคุณชอบบทความแนวนี้ สามารถอัพเดตบทความใหม่ๆโดยคลิก Like เฟสบุ๊คแฟนเพจ วิศวกรรีพอร์ต หรือคลิก ที่นี่
อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะครับ ^_^