วันนี้ผมโชคดีครับ!
เจอแม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำทักทายด้วยน้ำเสียงแจ่มใส พร้อมรอยยิ้มกว้าง
รปภ หน้าแบงก์เปิดประตูให้ กดบัตรคิว ตบท้ายด้วยรอยยิ้มเป็นของกำนัล
แม่ค้าขายผลไม้ส่งยิ้มให้แต่ไกล รีบกุลีกุจอหยิบชมพู่ใส่ถุง ยื่นให้พร้อมกับยิ้มเปื้อนหน้า ท่ามกลางอุณหภูมิที่เกินนิยามของคำว่า “ร้อน” ไปหลายช่วงตัวแล้ว
คุณว่าผม “โชคดี” ไหมครับ?
เอาเข้าจริงแล้ว…
ผมพูดเฉพาะกรณีที่ดีไงครับ!!
ยังมีอีกหลายๆเคสที่เกิดขึ้นแต่ผมไม่ได้เล่าให้ฟัง และไม่นำมาใส่ใจ…
เจอคอมเมนต์ของแฟนเพจบางคนที่ทำให้เซ็งจนนอย แว่บขึ้นมาว่าเลิกเขียนบทความดีไหม
เจอรถปาดหน้า แถมหยุดกระทันหัน เกือบจิ้มตูดเข้าให้แล้ว!!
ไมเกรนขึ้นตอนตีสี่แบบไม่มีปี่ขลุ่ย แถมไม่มียาติดบ้าน กว่าจะหายากินได้ก็ไม่ทันแล้ว ปวดหัวตั้งแต่ตีสียันหกโมงเย็น
ประเด็นก็คือ ผมไม่ได้หยิบมันมาเป็นประเด็นน่ะครับ!
เราเก็บเรื่องเหล่านี้มาคิดทำไมล่ะครับ?
ถ้าเรา “มองหา” แต่สิ่งดีๆ เราก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ หรือพบว่าสิ่งที่เรามีอยู่แล้วมันเป็นสิ่งดีๆ เราไม่ได้อยู่ในช่วง “ขาดแคลน”
แต่ถ้าเรามัวแต่จมกับเรื่องแย่ๆ เก็บมันมาใส่สมองแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราก็จะ “มองเห็น” แต่เรื่องแย่ๆ และ “มองข้าม” เรื่องดีๆรอบตัวไป
ผมเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างในชีวิตเราถูกสวรรค์ลิขิตมาทุกกระเบียดนิ้วนี่ครับ
เรายังมีสิทธิ์ขีดทางเลือกเดินได้ เรายังมีสิทธิ์สร้างโชคชะตาของเราได้ ขอเพียงมองหาแต่สิ่งดีๆ และมองข้ามเรื่องแย่ๆเหล่านั้นไป
อ้าว! ไหนบอกว่าไม่เก็บมาคิด แล้วทำไมจำว่าเกือบจิ้มตูดรถคันหน้าได้ล่ะ?
เอิ่ม… มันก็มีนิดนึงน่า… ^_^
.
หากคุณชอบบทความแนวนี้ สามารถอัพเดตบทความใหม่ๆโดยคลิก Like เฟสบุ๊คแฟนเพจ วิศวกรรีพอร์ต หรือคลิก ที่นี่
อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะครับ ^_^