คุณเคยคิดย้ายแผนกในบริษัทไหมครับ?
ผมคนนึงล่ะครับที่เคย และคิดติดต่อกันเป็นเวลาหลายปีด้วย!
แต่ตอนนี้ผมไม่คิดเรื่องนั้นแล้ว
ในทางตรงข้าม ผมกลับคิดว่าได้อยู่ในหน่วยงานที่เหมาะกับสไตล์การทำงานของตัวเองที่สุดแล้ว (ผมไม่ได้หมายความว่าหน่วยงานอื่นไม่ดีนะครับ)
และถ้าตัดประเด็นยิบย่อยทิ้งไป ผมคิดว่าทุกวันนี้ผมมีความสุขกับการทำงาน
ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้นล่ะ?
ผมมีเคล็ดลับครับ และนี่คือ 5 เคล็ดลับของผม
1. ฉีกประกาศวันหยุดของบริษัททิ้งไปซะ!!
ทุกสิ้นปีเราจะได้รับประกาศจากบริษัทใช่ไหมครับว่าปีหน้ามีวันหยุดวันไหนบ้าง
ปีใหม่หยุดถึงวันไหน สงกรานต์หยุดกี่วัน เข้าพรรษาจะได้หยุดไหม?
ผมอยากให้คุณฉีกประกาศฉบับนั้นทิ้งไปเลยครับ!
หรือถ้าประกาศฉบับนั้นถูกส่งมาทางอีเมล์ คุณก็ไม่ต้องอ่าน และกดดีลีตทิ้งไปเลยครับ
ทำไมล่ะ?
เพราะถ้าคุณสนใจมัน หรือแปะมันไว้ที่ฝาข้างโต๊ะของคุณ จิตของคุณก็จะมุ่งเน้นไปว่าวันหยุดต่อไปคือวันไหน เดือนหน้าจะมีวันหยุดอะไรบ้าง
ความมุ่งมั่นในการทำงานของคุณก็จะลดลงไปโดยไม่รู้ตัว
แต่ถ้าคุณทำงานโดยไม่สนใจวันหยุด เมื่อคุณรู้ว่าพรุ่งนี้วันหยุด (เพื่อนร่วมงานจะบอกคุณเอง ไม่ต้องหาประกาศที่ฉีกทิ้งไปแล้วก็ได้ครับ) คุณจะรู้สึกว่า
โอ้ พรุ่งนี้วันหยุดนี่นา!
คุณจะใช้เวลาวันหยุดของคุณอย่างมีค่า พอคุณกลับมาทำงานใหม่ คุณก็จะรู้สึกว่าคุณสามารถเริ่มงานได้เลยโดยไม่ต้องวอร์มสมองเหมือนที่ผ่านๆมา
ไม่เชื่ออ่ะ!
ต้องลองครับ ^_^
2. อีเมล์ใหม่ต้องเป็น 0 ทุกสิ้นวัน
ถ้าคุณใช้โปรแกรม Lotus Notes หรือโปรแกรมการจัดการอีเมล์อื่นๆที่มีฟีเจอร์ให้ตั้ง pop-up แสดงข้อความเตือนว่ามีอีเมล์ใหม่เข้ามา ผมอยากให้คุณยกเลิกการตั้งค่านี้ครับ
ทำไมล่ะ? สะดวกดีออก เวลามีเมล์ใหม่เข้ามาจะได้รู้เลย!
เพราะคุณจะเสียสมาธิทุกครั้งที่มีข้อความแจ้งเตือนครับ
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเขียนสูตรในเอ็กเซลอยู่ แล้วเจ้าป็อปอัพนี้ก็โผล่ขึ้นมาบอกว่ามีเมล์ใหม่ คุณกดปิด แล้วพิมพ์สูตรต่อ ยังไม่ทันกดเอ็นเตอร์ก็มีป็อปอัพแจ้งว่ามีเมล์ใหม่มาอีกแล้ว
คุณจะเสียสมาธิไหมครับ?
เมื่อคุณเสียสมาธิคุณก็จะทำงานช้าลง และอาจหงุดหงิดโดยที่คุณไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม คุณควรเช็คอีเมล์ใหม่ให้เป็น 0 ในทุกสิ้นวัน อย่าปล่อยให้มีสุสานอีเมล์ใหม่ในอินบอกซ์ของคุณ และเคยชินกับการเห็นตัวเลขอีเมล์ใหม่ค้างอยู่ที่ 1,875 อย่าคิดว่าจะมาเคลียร์เมื่อมีเวลานะครับ เพราะวันนั้นไม่เคยมาถึงซักที
3. คิดว่าเรากำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ชื่อว่า “บริษัท” แถมได้ทุนการศึกษาระหว่างเรียนอีกต่างหาก
งานนี้เป็นงานของฝ่ายบัญชี!
งานนี้เป็นงานของฝ่ายขาย!
งานนี้เป็นงานของฝ่ายเอชอาร์! (HR: Human Resource)
ถ้าคุณมีความคิดเช่นนี้ ผมอยากให้คุณหยุดคิดแล้วแทนที่ด้วยความคิดว่าคุณกำลังได้ลองทำสิ่งใหม่ๆในสนามจริงแถมยังได้รับค่าตอบแทนจากการลองอีกด้วย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!
ใครจะรู้ว่าในอนาคต คุณอาจต้องทำบัญชีของบริษัทตัวเองก็ได้
ในอนาคต คุณอาจมีโรงงานของตัวเองและคุณต้องดูแลการผลิตด้วยตัวเองก็เป็นได้
ในอนาคต คุณอาจก่อตั้งบริษัทของตัวเองและคุณอาจต้องดูแลเรื่องการรับพนักงานใหม่เองในช่วงแรกเริ่ม
เลิกคิดว่าไม่ใช่งานของเรา และกระโดดเข้าไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเถอะครับ สิ่งเหล่านี้มีค่ามากกว่าการไปนั่งฟังเทรนนิ่งเป็นไหนๆ
4. พูดถึงคนอื่นในแง่ดีเสมอ
การจับกลุ่มพูดถึงคนอื่นในแง่ลบไม่ก่อให้เกิดผลดีอะไรเลยนอกจากความมันส์ปากตอนคุยเท่านั้น
ถ้าคุณเป็นคนพูด คุณไม่มีทางรู้เลยว่า คนฟังจะนำสิ่งที่คุณพูดไปเล่าต่อให้คนอื่นฟังหรือเปล่า หรือเค้าจะนำสิ่งที่คุณพูดไปบอกคู่กรณีของคุณหรือเปล่า
ถ้าคุณเป็นคนฟัง วันนั้นคุณอาจจะฟังเรื่องของคนอื่นแบบมันส์สุดๆ แต่ถ้าวันพรุ่งนี้คุณไม่อยู่ในวง คุณอาจถูกเมาท์แบบมันส์สุดๆก็เป็นได้
ในทางตรงข้ามหากคุณพูดถึงคุนอื่นในแง่ดีเสมอ จิตของคุณก็จะมองคนในแงดี ด้วยกฎแห่งแรงดึงดูด (Law of Attraction) สิ่งดีๆจะเข้ามาหาคุณเองโดยที่คุณคาดไม่ถึง
5. ฉลองทุกความสำเร็จ แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
เมื่อคุณนำเทคนิคใหม่ของเอ็กเซลไปใช้ในงานได้สำเร็จ กำมือ ดึงศอกไปด้านหลัง พร้อมกับตะโกนว่า “เยส!”
เมื่อคุณทำสไลด์เสร็จเรียบร้อยพร้อมจะพรีเซ็นต์ในวันพรุ่งนี้ ชูสองกำปั้นในอากาศ พร้อมกับร้องว่า “เสร็จแล้ว (โว๊ย)!”
เมื่อคุณเคลียร์เมล์จนไม่มีเมล์ใหม่เหลือแล้ว ยิ้มให้กับตัวเองทุกครั้ง ^__^
และลงไปหาข้าวกลางวันอร่อยๆกิน
สิ่งเหล่านี้อาจเป็นความสำเร็จเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าคุณรวมทุกความสำเร็จมันจะไม่น้อยเลย
ถ้าคุณฉลองกับทุกความสำเร็จคุณจะพบว่าคุณประสบความสำเร็จในทุกๆวัน เพียงแต่คุณลืมเลือนมันไปเท่านั้น และจิตของคุณก็จะ “เสพย์ติด” กับสิ่งนั้นจนคุณต้องการมันในทุกๆวัน
การฉลองความสำเร็จเป็นเรื่องที่ดีนะครับ น่าแปลกที่เราไม่ค่อยฉลองกับมันและมองว่าต้องเป็นความสำเร็จใหญ่เท่านั้นถึงค่อยฉลอง การคิดเช่นนั้นคล้ายกับตั้งเงื่อนไขให้ตัวเองมากเกินไป และเราจะมีความสุขยากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว
นี่คือเคล็ดลับ 5 ข้อที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันที ลองดูนะครับ ไม่มีอะไรเสียหาย และไม่มีอะไรที่ต้องเสีย…
อ้อ! คนในภาพไม่ใช่ผมนะครับ เดี๋ยวหลายคนจะเข้าใจผิด ^^
.
หากคุณชอบบทความแนวนี้ สามารถอัพเดตบทความใหม่ๆโดยคลิก Like เฟสบุ๊คแฟนเพจ วิศวกรรีพอร์ต หรือคลิก ที่นี่
อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะครับ ^_^