วิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity Analysis) แบบมืออาชีพด้วย Microsoft Excel

ช่วยวิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity Analysis) ให้ผมหน่อยว่า ถ้าอัตราการเติบโตของดีมานด์เปลี่ยนไป NPV จะเป็นอย่างไร?

35902854_s

นี่คือคำถามที่เรามักได้รับหลังจากส่งตัวเลข NPV, IRR และ Payback Period ไปให้ผู้บริหาร!

เป็นคำถามที่ดีมากครับ แต่ตอบยากถ้าเราไม่รู้เทคนิคบางอย่าง!!

โมเดลการคำนวณที่เราสร้างขึ้นอาจอ้างอิงอัตราการเติบโตของดีมานด์ (Demand Growth Rate) เพียงอัตราเดียว (เช่น 5%) ถ้าต้องอ้างอิงอัตราการเติบโตของดีมานด์ 5 ค่า (เช่น 3%, 4%, 5%, 6%, 7%) ต้องทำโมเดลเพิ่มอีก 4 โมเดลไหม?

นั่นไม่สนุกเลยนะ!!

เราคงต้องทำโมเดลเพิ่มแน่นอนครับ (แม้ว่าจะแค่ปรับตัวเลขในสมมติฐานก็ตาม แต่ก็คงไม่สนุกนักที่ต้องทำอะไรซ้ำๆทุกครั้ง) ถ้าไม่รู้จักฟีเจอร์ที่ชื่อว่า

Data Table!!!

ผมไม่มั่นใจว่า Data Table ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานอะไรบ้าง แต่สำหรับผม ผมใช้มันสำหรับการวิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity Analysis) โดยเราสามารถสร้างตารางวิเคราะห์ความอ่อนไหวแบบตัวแปรเดียว หรือสองตัวแปรก็ได้ แถมมันจะคำนวณให้เราแบบอัตโนมัติเสร็จสรรพ!!

งง? นึกภาพไม่ออก?

เพื่อให้เห็นภาพ ลองดูจากตารางด้านล่างครับ

SensitivityAnalysis_OneFactor_150512

นี่คือการวิเคราะห์ความอ่อนไหวแบบตัวแปรเดียว หากเราได้รับโจทย์ว่า

ถ้าอัตราการเติบโตของดีมานด์ (Demand Growth Rate) เปลี่ยนเป็น 3%, 4%, 6% และ 7% (จากเดิมที่ตั้งเอาไว้ที่ 5%) จะมีผลต่อระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) อย่างไรบ้าง?

แน่นอนว่าอัตราการเติบโตยิ่งลดลงก็ยิ่งมีระยะเวลาคืนทุนช้าลงใช่ไหมครับ ในทางตรงข้าม ถ้าอัตราการเติบโตยิ่งสูงขึ้น ระยะเวลาคืนทุนก็ยิ่งเร็วขึ้นใช่ไหมครับ

จากตาราง ถ้าอัตราการเติบโตเปลี่ยนเป็น 3% ระยะเวลาคืนทุนจะกลายเป็น 4.30 ปี แต่ถ้าอัตราการเติบโตเปลี่ยนเป็น 7% ระยะเวลาคืนทุนก็จะเร็วขึ้นเป็น 4.07 ปี ครับ

ทั้งนี้ถ้าเราเปลี่ยนตัวเลขในตารางจาก 7% เป็น 10% เอ็กเซลก็จะวิเคราะห์ระยะเวลาคืนทุนให้เราใหม่แบบอัตโนมัติด้วยนะครับ โดยที่เราไม่ต้องไปแมนวลคิดมือเลย

หรือเราอาจวิเคราะห์ความอ่อนไหวแบบสองตัวแปรก็ได้นะครับ

SensitivityAnalysis_TwoFactor_150512

จากตารางด้านบนคือการวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามว่า

ถ้าอัตราเติบโตของดีมานด์ และราคาเปลี่ยนแปลงไป จะมีผลต่อ NPV อย่างไรบ้าง?

เมื่อเรามีตารางที่สร้างจาก Data Table แล้ว เราจะทราบทันทีว่า ถ้าอัตราการเติบโตเปลี่ยนเป็น 4% และราคาเปลี่ยนเป็น 1,300 บาท NPV จะกลายเป็น 502

หรือ ถ้าอัตราการเติบโตเปลี่ยนเป็น 7% และราคาเปลี่ยนเป็น 1,700 บาท NPV จะกลายเป็น 1,744

เห็นไหมครับว่าการเปลี่ยนสมมติฐานเพียงเล็กน้อย แต่ NPV เปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยทีเดียว นั่นคือประเด็นที่ผมเคยทิ้งท้ายไว้ในบทความก่อนว่าการคิด NPV, IRR หรือ Payback Period ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์สมมติฐานว่าเป็นไปได้มากน้อยและน่าเชื่อถือเพียงใด

ย้ำ! อีกครั้งว่าตัวเลขทั้งหมดไม่ได้เกิดจากการแมนวลใส่ลงไปนะครับ แต่เกิดจากการคำนวณแบบอัตโนมัติโดยใช้ฟีเจอร์ที่ชื่อว่า

Data Table

หากใครหาฟีเจอร์นี้ไม่เจอให้ไปที่ Data/What-if Analysis/Data Table นะครับ

DataTable_Command_150512

ไม่เคยใช้เลย มีไฟล์ตัวอย่างให้ดูไหม?

มีแน่นอนครับ สามารถดาวน์โหลดฟรีได้จากลิงค์ด้านล่างเลยครับ

SensitivityAnalysis_150512

เวลาใช้ Data Table แนะนำให้เปิดเพียงไฟล์เดียวหรือเปิดไฟล์ให้น้อยที่สุดนะครับ เพราะอาจต้องใช้เวลาคำนวณเล็กน้อย ยิ่งเปิดไฟล์หลายไฟล์ยิ่งเพิ่มโหลดการคำนวณ อาจคำนวณช้าและทำให้เสียอารมณ์ได้ครับ ^^

อันที่จริงแล้ว Data Table ใช้งานง่ายมากนะครับ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยใช้อาจงงเรื่องวิธีการใช้เล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่อธิบายผ่านทางตัวหนังสือค่อนข้างยาก หากมีโอกาสผมจะมารีวิวฟีเจอร์นี้อีกครั้งครับ

ใครที่กำลังทำโปรเจ็คท์อยู่ ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้นะครับ แล้วคุณจะรักเจ้า Data Table มากเลยล่ะครับ

ขอให้สนุกกับ Data Table ทุกคนครับ ^_^

.

หากคุณชอบบทความแนวนี้ สามารถอัพเดตบทความใหม่ๆโดยคลิก Like เฟสบุ๊คแฟนเพจ วิศวกรรีพอร์ต หรือคลิก ที่นี่

อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะครับ ^_^

วิศวกรรีพอร์ต

คนธรรมดาผู้มีประสบการณ์ทำงานหลากหลายตำแหน่ง คลุกคลีกับการทำรีพอร์ตมาโดยตลอด สุดท้ายค้นพบแนวทางของตัวเอง จึงอยากแบ่งปันเคล็ดลับและประสบการณ์ให้กับผู้สนใจ

19 thoughts on “วิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity Analysis) แบบมืออาชีพด้วย Microsoft Excel

  1. ขอบคุณครับ
    ก่อนหน้านี้ คำนวณแมนวล เปลี่ยนค่าทีนึง ไล่คีย์ค่ากันเหนื่อยเลย

Leave a Reply to วิศวกรรีพอร์ตCancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.