2 สิ่งที่ทำให้ฉันเก่ง Excel

“อยากเก่ง Excel ควรเริ่มยังไงดีครับ?”

คนที่ถามคำถามนี้ เชื่อไหม อีก 3 ปีเค้าก็ยังไม่เก่ง

ทำไม?

เพราะจากคำถาม แสดงให้เห็นว่าเค้ายังไม่ถึง “จุด” ที่อยากเก่งจริงๆ

หรือพูดง่ายๆคือ เค้ายังไม่มีแรงขับเพียงพอ ที่จะถีบให้ตัวเองเก่งกว่าเดิม

คนที่ถามคำถามนี้ มักมีความคิดประมาณว่า

“อยากเรียน Excel ให้แน่นก่อน จะได้ทำงานง่ายขึ้น”

ผมบอกได้เลยว่า ความคิดแบบนี้ไม่รุนแรงเพียงพอที่จะเก่งขึ้นได้

เพราะอะไรน่ะหรือครับ?

เพราะในชีวิตจริง โจทย์ที่เราเจอไม่ได้เรียงลำดับจากง่ายไปหายาก มันมาไม่มีรูปแบบ

เช่น วันนี้เจอความยากระดับ 8 พรุ่งนี้เจอความยากระดับ 5 ทั้งที่ตอนนี้เพิ่งมีความสามารถระดับ 2

หรือตอนนี้มีความสามารถระดับ 1 แต่ดันเจอโจทย์ความยากระดับ 10 ที่แม้แต่คนเก่ง Excel ที่สุดในบริษัทก็ยังทำไม่ได้ !

การที่จะเก่งขึ้นมาได้ ต้องผ่านจุดวิกฤตขึ้นมาก่อน

สิ่งที่ทำให้ผ่านจุดวิกฤตมาได้ก็คือ แรงขับ นั่นเอง

แรงขับ มี 2 ประเภทคือ “เพน” และ “เพลิน”

เพน คือ ความเจ็บปวด (Pain)

เพลิน คือ ความสนุกสนาน (Ploen ผมแปลงจากภาษาไทยนะครับ ^^)

แรงขับตัวแรกที่ต้องมีคือ เพน

เพนต้องเป็นความเจ็บปวดที่รุนแรงมาก ถึงขั้นที่ว่า ถ้าทำไม่ได้ เราก็ทำตำแหน่งนี้ไม่ได้

ถ้าทำไม่ได้ โปรเจ็คต์นี้ไปต่อไม่ได้

ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องกลับบ้านเที่ยงคืนทุกวัน

มันต้องรุนแรงประมาณนี้

คนที่มีเพนระดับนี้ ต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้งานสำเร็จ ไม่สนใจว่าความรู้เอ็กเซลที่มีตอนนี้จะเพียงพอหรือไม่ ไม่สนใจว่าจะเรียนตามลำดับขั้นหรือไม่

สนใจแค่ว่า ทำยังไงก็ได้ให้สำเร็จ

คำถามของคนที่มีเพนระดับนี้ จะไม่ใช่คำถามลอยๆว่าต้องเริ่มยังไง แต่จะเป็นคำถามที่ระบุชัดเจนไปเลย เช่น

“ผมต้องทำโมเดลการคำนวณว่า ถ้าราคาวัตถุดิบแต่ละตัวเปลี่ยนไปแบบนี้ อัตราการใช้น้ำมันเตาในการผลิตเปลี่ยนเป็นแบบนี้ ราคาขายของสินค้าแต่ละตัวเปลี่ยนไปแบบนี้ เงินเดือนพนักงานปรับเพิ่มขึ้นเป็นแบบนี้ กำไรสุทธิจะเปลี่ยนไปเท่าไร”

“บริษัทเพิ่งมีการควบรวมครั้งใหญ่ แต่บริษัทลูกแต่ละแห่งจัดฟอร์แมตงบการเงินไม่เหมือนกันเลย บางบริษัทก็อยู่ต่างประเทศ มีปัจจัยเรื่องการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน จะทำงบการเงินรวมยังไงดี”

“ต้องทำรีพอร์ตสรุปการอบรมของพนักงานแต่ละคน 5 ปีย้อนหลัง แต่พนักงานบางคนเปลี่ยนชื่อ บางคนแต่งงานแล้วเปลี่ยนนามสกุล บางคนเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุล ตอนเซ็นชื่อเข้าอบรมก็ไม่ได้ใส่รหัสพนักงาน”

ถ้ามีเพนที่รุนแรงเพียงพอ เป้าหมายก็จะชัดเจน เราจะรู้ว่าต้องวางโครงยังไง

อะไรที่รู้แล้ว อะไรที่ยังไม่รู้ และพยายามทุกวิถีทางที่จะรู้

หรือพูดง่ายๆก็คือ ต้องรู้ให้ได้

พอรู้แล้วนำไปใช้จริง ก็จะมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

(ถ้ารู้แต่ไม่นำไปใช้ ไม่มีทางที่จะเข้าใจ)

ผมบอกได้เลยว่า คนที่เก่งเอ็กเซล “เรียน” เอ็กเซลกันแบบนี้ทั้งนั้น

นั่นคือ เค้าไม่ได้เรียนในห้องเรียน แต่เรียนจากประสบการณ์ทำงาน

เมื่อเจอประสบการณ์โหดๆ และผ่านพ้นมาได้ (ด้วยดี) เมื่อนั้นเค้าจะเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด

(ถ้าไม่เชื่อ ลองถามคนเก่งเอ็กเซลใกล้ตัวคุณ)

ระวัง! การเก่งเอ็กเซลโดยอาศัยเพนเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอ

ทำไมน่ะหรือครับ?

เพราะตอนที่เรามีเพนนั้น เรามีเป้าหมายชัดเจน โฟกัสเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้

และการที่โฟกัสเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้นั่นเอง ทำให้ละเลยสิ่งที่ไม่ได้โฟกัส ซึ่งในอนาคต อาจต้องใช้สิ่งที่ละเลยนั้นก็ได้

เช่น เราต้องทำแดชบอร์ดนำเสนองาน ออกแบบแล้วต้องใช้กราฟเส้น กราฟแท่ง กราฟวงกลม จึงศึกษากราฟเหล่านี้อย่างจริงจัง ใช้งานจนช่ำชอง รู้จักทุกรูขุมขุน

แต่ยังมีอีกหลายกราฟที่ตอนนี้อาจยังไม่ได้ใช้ แต่อนาคตอาจจะต้องใช้ก็ได้ เช่น กราฟ Scatter XY, กราฟ Bubble กราฟ Treemap

ถ้าอาศัยเพนเพียงอย่างเดียว บอกได้เลยว่า ยากมากที่จะมีโอกาสศึกษากราฟพวกนี้

ทำยังไงถึงจะมีโอกาสศึกษาน่ะหรือครับ?

สิ่งที่ทำให้เราศึกษาเรื่องพวกนี้ ก็คือแรงขับตัวที่สอง หรือก็คือ เพลิน นั่นเอง

เพลินคือความสนุกสนานจากการศึกษาเอ็กเซล รู้สึกว่ายิ่งศึกษายิ่งสนุก ยิ่งเจอสิ่งที่ยังไม่รู้ นำความรู้ใหม่ๆมาทดลองใช้จริง

ตอนที่มีเพน เราไม่เคยใช้กราฟพวกนี้เลย พอเพนผ่านพ้นไปแล้ว ลองมาใช้ดู เฮ้ย มันก็สนุกดีนี่หว่า

ถ้าปรับตรงนี้ กราฟจะเปลี่ยนไปแบบนี้

แต่ถ้าปรับออปชั่นนี้ กราฟกลายเป็นแบบนี้

ไฮโซ!

คนที่มี เพลิน จะมีความคิดประมาณนี้ครับ

เมื่อใช้เพลินเป็นแรงขับ ก็เหมือนเตรียมความพร้อมรับมือเพนในอนาคต

เมื่อใช้เพลินจนถึงจุดหนึ่ง เพนจะค่อยๆลดลงไป เสมือนฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน

ต่อให้อนาคตเจอเพน ก็จะไม่รุนแรงเหมือนเพนที่เคยเจอครั้งแรก

ในทางตรงข้าม เราจะสนุก เพราะเพลินที่ฟูมฟักเอาไว้มีโอกาสผลิดอกออกผลแล้ว

จริงๆแล้ว แรงขับที่ดีที่สุดสำหรับการศึกษา Excel คือ เพลิน (ไม่ใช่เพน)

แต่ในทางปฏิบัติ ยากมากที่จะมีเพลินก่อนมีเพน

ส่วนใหญ่เริ่มจากมีเพนก่อนทั้งนั้น

เพนคือสิ่งที่ผลักดันเรา แต่เพลินคือสิ่งที่ดึงให้สิ่งนั้นอยู่กับเรา

พูดง่ายๆคือ เพนคือแรงผลัก ส่วนเพลินคือแรงดึง

ช่วงแรก เพนจะนำหน้าเพลิน แต่ช่วงหลังเพลินจะนำหน้าเพน

เมื่อมีทั้งเพนและเพลิน เมื่อนั้นเราจะทำอะไรก็ได้ในเอ็กเซล จนผู้คนรอบข้างอาจขนามนามว่า “เทพเอ็กเซล”

แล้วคุณล่ะ มีทั้ง เพน และ เพลิน หรือยังครับ ^__^

.

หากคุณชอบบทความแนวนี้ สามารถอัพเดตบทความใหม่ๆโดยคลิก Like เฟสบุ๊คแฟนเพจ วิศวกรรีพอร์ต หรือคลิก ที่นี่

อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะครับ ^__^

วิศวกรรีพอร์ต

คนธรรมดาผู้มีประสบการณ์ทำงานหลากหลายตำแหน่ง คลุกคลีกับการทำรีพอร์ตมาโดยตลอด สุดท้ายค้นพบแนวทางของตัวเอง จึงอยากแบ่งปันเคล็ดลับและประสบการณ์ให้กับผู้สนใจ

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.