คุณรู้จัก “กราฟพูดได้” ไหมครับ?
กราฟพูดได้ คือ กราฟที่เห็นปุ๊ป แล้วรู้ปั๊ป ว่าต้องการสื่อถึงอะไร
หรือเห็นแล้วพอจะเดาได้ว่า ผู้พูดกำลังจะพูดอะไร
กราฟพูดได้ที่ว่า หน้าตาประมาณนี้ครับ
หรือแบบนี้ครับ
เทคนิคที่ทำให้กราฟพูดได้คือ “สื่อ-ซ้อน-ซ่อน”
สื่อ
สื่อว่ากำลังจะบอกอะไร ประเด็นของกราฟนี้คืออะไร
เทคนิคที่มักถูกนำมาใช้ เช่น
- Data Label
- Data Label แบบ Callout (มีเฉพาะเวอร์ชั่น 2013 ขึ้นไป)
- เปลี่ยนสีกราฟ
- เปลี่ยนรูปแบบกราฟ เช่น ใช้กราฟเส้นประ
ซ้อน
นำกราฟหลายๆกราฟมาซ้อนกัน ต่อกัน หรือประกอบร่างเข้าด้วยกัน เพื่อสื่อความหมายให้ชัดขึ้น
1 กราฟที่เห็น อาจประกอบด้วย 3-4 กราฟซ้อนกันก็เป็นได้
ซ่อน
ซ่อนบางอย่างเพื่อหลอกตา เพื่อขับเด่น สิ่งที่ต้องการสื่อ
เทคนิคที่มักถูกนำมาใช้ เช่น
- ทำกราฟเส้นให้ไม่มีเส้น (No Line)
- ทำส่วนล่างของกราฟ Stacked ให้ไม่มีสี (No Fill) และ ไม่มีเส้นขอบ (No Line) ตัวอย่างที่เห็นชัดมากคือ กราฟน้ำตก (Waterfall)
- ซ๋อนองค์ประกอบกราฟที่ไม่ได้สื่อประเด็นทิ้งไป เช่น
- Gridlines
- Legend
- แกน X
- แกน Y
.
เรามักนำทั้ง “สื่อ-ซ้อน-ซ่อน” มาฟีเจอร์ริ่งกันในกราฟเดียว เพื่อให้กราฟ “เนียน”
แบบนี้ครับ
กราฟพูดได้ไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะครับ มีอีกเป็นสิบแบบ ประยุกต์ใช้ได้อีกมากมาย
นอกจากเทคนิค “สื่อ-ซ้อน-ซ่อน” แล้ว การเตรียมตารางข้อมูล ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ถ้าเตรียมตารางข้อมูลดี พร้อมใช้งาน การสร้างกราฟก็เป็นเรื่องง่าย
ในทางตรงข้าม ถ้าเตรียมตารางข้อมูลไม่ดี การสร้างกราฟก็จะยาก ยิ่งสร้างกราฟพูดได้ ยิ่งยากเป็นทวีคูณ T_T
.
จุดเด่นของการสร้างกราฟด้วย MS Excel คือ เราสามารถใส่เงื่อนไขลงไปในตารางคำนวณได้
สามารถนำฟังก์ชั่นของเอ็กเซลมาช่วยเขียนเงื่อนไข หรือเขียนสูตรได้ง่ายมาก
กราฟพูดได้จึงเป็นกราฟไดนามิกส์ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามข้อมูล ไม่จำเป็นต้องหน้าตาแบบนี้เป๊ะๆเสมอไป
ฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยๆในการสร้างสรรค์กราฟพูดได้ เช่น
- IF
- AND
- OR
- NA()
- LARGE
- SMALL
จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่ฟังก์ชั่นที่ใช้ยาก เป็นฟังก์ชั่นที่ต้องการตัวแปร (Argument) เพียงไม่กี่ตัว
ส่วนใหญ๋เป็นฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบตรรกะ โดยเฉพาะฟังก์ชั่น IF ใช้บ่อยมั่กๆ ^_^
.
ถ้าเราลองฝึกสร้างกราฟพูดได้ไปซักระยะนึง เราจะพบว่า เทคนิคที่ใช้มีไม่กี่เทคนิค
หลายกราฟใช้เทคนิคคล้ายๆกัน อยู่ที่ว่าจะเอาอะไรมาผสมกับอะไร
สิ่งที่สำคัญมากกว่าเทคนิคคือ จินตนาการ ว่าจะสร้างกราฟออกมาหน้าตาแบบไหน
ทำยังไงให้ผู้ฟังเข้าใจ…
เมื่อใดที่เราได้ทั้ง เทคนิค และ จินตนาการ ก็เหมือนกับเราได้ ลูกแก้วสารพัดนึก
สามารถสร้างสรรค์กราฟได้ตามใจนึก
เมื่อนั้น เราจะได้ พลังแห่งการสื่อสาร มาครอบครอง
และ “การสร้างกราฟ” ก็จะไม่ได้เป็นแค่ การสร้างกราฟ อีกต่อไป…
.
หากคุณชอบบทความแนวนี้ สามารถอัพเดตบทความใหม่ๆโดยคลิก Like เฟสบุ๊คแฟนเพจ วิศวกรรีพอร์ต หรือคลิก ที่นี่
อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะครับ ^_^
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ
Thanks & Regards,
Somjai Panchamawat
Contact Center Fl.10
*Krungthai Card Public Company Limited*
Tel. +66 2665 5135
2016-04-19 19:25 GMT+07:00 “วิศวกรรีพอร์ต” :
> วิศวกรรีพอร์ต posted: “คุณรู้จัก “กราฟพูดได้” ไหมครับ? กราฟพูดได้
> คือ กราฟที่เห็นปุ๊ป แล้วรู้ปั๊ปว่าต้องการสื่อถึงอะไร
> หรือเห็นแล้วพอจะเดาได้ว่า ผู้พูดกำลังจะพูดว่าอะไร กราฟพูดได้ที่ว่า
> หน้าตาประมาณนี้ครับ หรือแบบนี้ครับ เทคนิคที่ทำให้กราฟพูดได้คือ
> “สื่อ-ซ่อน-ซ้อน” สื่”
>
ยินดีครับ
Thanks!!!
ทำอย่างไรถึงจะให้ chart แสดง callout ใน column D (Summer/ Flood/ Winter) บนกราฟเส้นแบบกราฟที่ 3 ได้คะ?
ต้องใช้ Excel ตั้งแต่ version 2013 ขึ้นไปถึงจะทำได้ครับ
มีฟีเจอร์ Data Label แบบ Callout ครับ