“ความยากมันอยู่ที่ห้ามชี้นำ ห้ามบอกคำตอบ และมีเวลาแค่ 60 นาที”
ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าเริ่มมีกำแพงบาง ๆ ระหว่างผมกับลูกสาววัย 8 ขวบ
คือไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ผมรู้สึกว่าเค้าเริ่มปิดกั้น เริ่มมีอะไรที่ไม่อยากบอก บางเรื่องมารู้ทีหลังก็สายไป
หลายครั้งเห็นเค้าซึม พอถามว่าเป็นอะไร คำตอบที่ได้คือ “ไม่มีอะไรค่ะ”
กำแพงเริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“คนนี้คือไลฟ์โค้ช?” คือสิ่งที่ผมคิด เมื่อเห็นคอร์สออนไลน์ที่ชื่อว่า The Essentials of Coaching ใน Cariber
ผมเป็นพวกแอนตี้ไลฟ์โค้ชนิด ๆ ไม่ถึงกับส่ายหน้า แต่รู้สึกว่าไม่จำเป็น
“ทำไมต้องมีโค้ช เราโค้ชตัวเองก็ได้” คือสิ่งที่ผมคิด
ขณะที่จะกดข้ามไปดูคอร์สอื่น ภาพกำแพงที่เริ่มก่อตัวก็แวบขึ้นมา
“ลองดูหน่อยละกัน เผื่อได้ไอเดียไปใช้กับลูก ยังไงก็ไม่เสียเงินเพิ่ม”
รู้ตัวอีกทีผมก็เรียนคอร์สนั้นจนจบ และประทับใจมาก มากจนเขียนบทความที่คุณกำลังอ่านนี่แหละ
ก่อนหน้านี้ ภาพไลฟ์โค้ชในหัวของผมคือ พวกบ้าพลัง ตะโกนปลุกใจ “สู้! เราทำได้ เฮ!!”
แต่ไลฟ์โค้ชในคอร์ส (โค้ชณัฏฐ์ เพิ่มทรัพย์) มีบุคลิกตรงข้ามกับที่คิดไว้ทุกอย่าง อ่อนโยน ใจเย็น พูดช้า
เพิ่งรู้ว่าการเป็นไลฟ์โค้ชไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ ต้องไปเรียน (ค่าเรียนเป็นแสน) ฝึกเก็บชั่วโมง มีการสอบ มีสถาบันรับรอง คนที่เป็นไลฟ์โค้ชจริง ๆ ในเมืองไทยมีไม่กี่คน
(ที่เห็นเกลื่อนกลาดในเน็ตคือพวกสถาปนาตัวเองขึ้นมา)
ตอนเรียนผมคิดเสมอว่าจะนำเนื้อหาไปปรับใช้กับลูกสาวยังไง อะไรที่พลาดไป อะไรที่ควรทำ และก็พบว่าพลาดเยอะมาก
ด้วยความที่เป็นพ่อ เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน จึงพยายามบอกลูกว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรควรรอ
เมื่อเค้าอยากทำอะไรแล้วมาเล่าให้ฟัง แต่ผมมองว่าสิ่งนั้นไม่ดี ก็บอกว่าไม่ดียังไง พยายามอธิบายให้เข้าใจ
นั่นแหละคือสิ่งที่พลาด เพราะผมไม่ได้ฟังเค้าอย่างตั้งใจ และยัดเยียดความคิดของตัวเองให้ (โดยไม่รู้ตัว)
หลักการของโค้ชคือ เป็นที่ปรึกษา แต่ห้ามชี้นำ และห้ามบอกคำตอบ (แม้โค้ชจะรู้คำตอบนั้นก็ตาม)
“ห้ามบอกคำตอบ ไม่บอกคำตอบแล้วจะมาปรึกษาทำไม?”
เพราะต้องให้อีกฝ่ายคิดได้เอง คำตอบที่คนอื่นบอก กับคำตอบที่ตัวเองคิดได้ แม้จะเป็นคำตอบเดียวกัน แต่ความเข้าใจต่างกันมหาศาล
“ห้ามชี้นำ แล้วอีกฝ่ายจะหาคำตอบได้ยังไง?”
จากคำพูดที่โค้ชสะท้อน (Reflect) และจากคำถามที่โค้ชชวนคิด (Powerful Questioning)
การโค้ชก็คือการพูดคุยธรรมดานี่แหละ แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 60 นาที แต่ต้องทำให้อีกฝ่ายไปถึงเป้าหมาย
ความยากมันอยู่ตรงนี้ ห้ามชี้นำ ห้ามบอกคำตอบ มีเวลาแค่ 60 นาที นี่คือโจทย์ที่หินสุด ๆ
แต่คอร์สทำสิ่งเหล่านี้ออกมาให้เห็นภาพ และทำได้อย่างดีเยี่ยม
สิ่งที่ชอบมากคือ มีตัวอย่างการโค้ชจริง ๆ ให้เห็น
ไม่ใช่บทบาทสมมตินะ แต่เป็นการโค้ชจริง เรื่องราวจริง ระหว่างโค้ชณัฏฐ์และผู้มาปรึกษา (Coachee)
ผู้มาปรึกษาเป็นน้องผู้หญิง ชื่อน้องมายด์ กำลังมีปัญหาเรื่องการบาลานซ์งานที่ชอบ เงินที่ใช่ และสุขภาพ
ตัวอย่างในบทนี้ใช้เวลาประมาณ 60 นาที และสุดท้ายน้องมายด์ก็ได้คำตอบ
ใช่, ได้คำตอบโดยที่โค้ชณัฏฐ์ไม่ได้บอก และไม่ได้ชี้นำนั่นแหละ
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมากคือ โค้ชณัฏฐ์นำสิ่งที่คุยกับน้องมายด์มาอธิบายในบทถัด ๆ ไป ทำไมพูดอย่างนี้ ทำไมไม่พูดอย่างนี้ ทำไมต้องทำแบบนี้ และในคลิปยัง flashback ให้ดูด้วยว่าตอนนั้นโค้ชณัฏฐ์พูดอะไร
ทุกอย่างถูกออกแบบและร้อยเรียงได้อย่างลงตัว
การเป็นโค้ชดีที่ ไม่ว่าจะโค้ชลูก โค้ชลูกน้อง หรือโค้ชใครก็ตาม ทุกอย่างเริ่มจากการฟัง (ซึ่งผมยังฟังลูกไม่ดีเท่าไร)
การฟังที่ดีคือ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราตั้งใจฟังเค้าจริง ๆ
ขอกลับไปที่เรื่องการสะท้อน (Reflect) นิดนึง การสะท้อนคือการตีความให้ผู้พูดฟัง ว่าสิ่งที่พูดมีความหมายแบบนี้ใช่ไหม
ดูเสียเวลาและไร้สาระเนอะ แต่เอาเข้าจริงสิ่งนี้มีพลังมาก
ผมนึกถึงตอนสอนคลาสนึงเมื่อหลายปีก่อน คลาสนั้นมีนั่งแถวหน้ายกมือถาม ผมกลัวคนนั่งแถวหลังไม่ได้ยิน จึงทวนคำถามให้ทั้งห้องฟัง พอทวนคำถามก็เสียเวลา เสียจังหวะ กังวลเล็ก ๆ ว่าคนอื่นจะไม่ชอบหรือเปล่า แต่คอมเมนต์ที่ได้รับหลังเลิกคลาสคือ
“ชอบที่อาจารย์ทวนคำถามให้ฟัง”
“ประทับใจอาจารย์ อาจารย์ตั้งใจตอบคำถามมาก”
ตั้งแต่นั้นมา ผมทวนคำถามให้ทุกคนในคลาสฟังเสมอ และได้ผลตอบรับที่ดีทุกครั้ง
กลับมาเรื่องการตั้งคำถามนิดนึง คำถามที่ดีคือคำถามที่กระตุ้นให้คิด มองในมุมที่ไม่เคยมอง หรือไม่กล้าที่จะมอง
การตั้งคำถามพวกนี้เรียกว่า Powerful Questioning
องค์ประกอบของ Powerful Questioning มี 7 ข้อ ซึ่งก็คือภาพประกอบบทความนั่นเอง
อีกสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากโค้ชณัฏฐ์คือบุคลิก เค้ามีบุคลิกที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอยากพูด อยากเล่า
ภาษากาย (Visual) คำพูด (Verbal) และน้ำเสียง (Vocal) ของโค้ชณัฏฐ์ทำให้รู้สึกเช่นนั้น
การได้ดูเค้าสอน สีหน้า แววตา การวางมือ ผมได้เรียนรู้เยอะมาก
“เราสื่อสารตลอดเวลา แม้เราไม่ได้กำลังสื่อสารก็ตาม” โค้ชณัฏฐ์กล่าวไว้
ต้องขอบคุณทีมงานคาริเบอร์ที่ถ่ายทอดได้อย่างดีเยี่ยม ภาพสวย แสงสวย มุมกล้องที่หลากหลาย และมีตัวหนังสือป๊อปอัพประกอบความเข้าใจ
เรียนจบคอร์สแล้ว ผมคงนำสิ่งที่เรียนไปใช้กับลูกสาวแบบเป๊ะ ๆ ไม่ได้ เพราะเด็กวัย 8 ขวบยังมีประสบการณ์ชีวิตน้อยเกินไป คงต้องแอบชี้นำบ้าง แต่อย่างน้อยผมต้องเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้น ต้องทำให้เค้ารู้สึกว่าพ่อพร้อมจะฟังจริง ๆ และทำให้เค้ารู้ว่าพ่อพร้อมจะอยู่เคียงข้างในทุก ๆ เรื่อง
ตั้งใจว่าจะเริ่มวันนี้เลยครับ 😊
ขอบคุณโค้ชณัฏฐ์และคาริเบอร์ที่สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ครับ ^/\^
ป.ล. ถ้าใครสนใจคอร์สที่ผมพูดถึง ดูรายละเอียดได้จาก https://www.cariber.co/nat-permsup
ป.ล. 2 ผมเป็นสมาชิกคาริเบอร์แบบรายปี ดูได้ทุกคอร์ส และแน่นอนว่าผมจะดูซ้ำครับ 😀